คริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) หลายคนเริ่มจะได้ยินคำนี้บ่อยขึ้นในสังคมอินเทอร์เน็ตหรือแม้กระทั่งในสังคมการทำงานและการลงทุน เพราะในปัจจุบัน คริปโตเคอเรนซีถูกยอมรับมากขึ้นจนกลายเป็นทรัพย์สินดิจิตอลอีกชนิดหนึ่ง หรือจะแปลตรงๆ ก็คือเงินดิจิตอลนั่นเอง โดยเราสามารถนำเงินดิจิตอลเหล่านี้ไปชำระสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตได้โดยเสียค่าธรรมเนียมอันน้อยนิด และจุดแข็งที่สำคัญของ คริปโตเคอเรนซี ก็คือเราสามารถโอนหรือรับจากใครก็ได้ในโลกที่มีกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์เหมือนกัน เสมือนว่าเป็นเงินที่ไร้พรมแดนเลยทีเดียว

คริปโตเคอเรนซี หรือเงินดิจิตอล ก็มีสกุลเงินต่างๆหลายสกุล แต่ที่นิยมกันมากในตอนนี้จะเป็นสกุลเงิน BTC , ETH หรือ LTC และสกุลอื่นๆ ด้วยก็เช่นกัน โดยในแต่ละสกุลเงินก็จะมีมูลค่าที่แตกต่างกันออกไป และมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดการถือครองเงินดิจิตอลเหล่านี้เพื่อการเกร็งกำไรขึ้นมากอีกรูปแบบหนึ่ง นอกเหนือจากการถือครองเพื่อซื้อสินค้าโดยทั่วไป
ประเทศไทยได้มีกฏหมายรองรับ คริปโตเคอเรนซีแล้ว และถือว่าเป็นสื่อกลางในการนำมาแลกเปลี่ยนได้ถูกต้องตามกฏหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนใน คริปโตเคอเรนซี ได้มากขึ้นนั้นเอง ในปัจจุบันคริปโตเคอเรนซี ได้พัฒนาระบบออกมาเพิ่มขึ้น เพื่อทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ และตอบสนองความหลากหลายในการใช้เงินดิจิตอลเหล่านี้ โดยมีดังนี้
Decentralized Finance (DeFi) คือระบบธุรกรรมการเงิน คริปโตเคอเรนซี ที่ไม่มีตัวกลางในการจัดการ แต่จะมีระบบ Blockchain เข้ามาจัดการธุรกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น การโอนเงิน การให้กู้ยืม การลดการผันผวนของเงินสกุลต่างๆ รวมไปถึงการระดมทุน ซึ่งจะทำให้เกิดความยืดหยุ่นในของธุรกรรมการเงินดิจิตอล และความปลอดภัยโปร่งใสขึ้นมาด้วย.
Non-Fungible Token (NFT) คือระบบทรัพย์สินทางดิจิตอล ที่มีพื้นฐานพัฒนามาจาก Blockchain โดย NFT นั้นจะเป็นระบบที่บอกว่าทรัพย์สินดิจิตอลนั้นมีเพียงชิ้นเดียว หรือมีจำนวนที่จำกัด และยังมีผู้ถือครองได้คนเดียวเท่านั้น ทำให้ NFT ส่งเสริมการขายผลงานดิจิตอลเป็นอย่างมาก
.
staking crypto คือ ระบบการลงทุนอีกแบบหนึ่งที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนใน คริปโตเคอเรนซี โดยปกติหากเราต้องการลงทุนเราจะต้องมองหาเหรียญที่มีแนวโน้มว่าจะมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมูลค่าเหรียญที่นิยมในตลาดนั้นสูงมากจึงไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น จึงเกิดระบบ staking ขึ้นมาเพื่อให้นักลงทุนสามารถเริ่มต้นด้วยทุนที่ไม่มาก ซึ่ง staking จะเป็นการตรวจสอบการถือครองของผู้ใช้เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้เหรียญนั้นๆ ทำให้มูลค่าของเหรียญเพิ่มขึ้น ผู้ลงทุนเพียงแค่ถือครองเหรียญ ก็จะได้รับรางวัลเป็นส่วนแบ่งค่าถือครองหรือเงินปันผลนั่นเอง.
airdrop crypto คือ ระบบในการสุ่มแจกเหรียญให้กับผู้ที่ใช้บริการกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ หรือบางครั้งใช้เป็นรางวัลในการทำกิจกรรมต่างๆนั่งเอง ซึ่งผู้ให้บริการจะแจก airdrop เพื่อเป็นการเพิ่มผู้ใช้ใหม่ หรือเป็นการกระตุ้นการเทรดเหรียญที่เข้าร่วมโครงการ
.
จากบริการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า คริปโตเคอเรนซี พัฒนาระบบไปมาก มีหลายบริการที่เพิ่มขึ้นมา พร้อมกับการตรวจสอบที่ดีขึ้น และในอนาคต คริปโตเคอเรนซี อาจเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญในอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ .