วิธีเลือกกล้องส่องทางไกล แบบไหนที่เหมาะกับเรา

0

อยู่บ้านทุกวันก็เบื่อ อยากได้กล้องส่องทางไกลซักตัวมาเพิ่มสีสันให้กับชีวิตบ้าง” คำบ่นจากชาวWFH ที่จู่ๆ ก็อยากได้อะไรที่ไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ได้กลายเป็นหัวข้อฮอตตอนพักประชุมออนไลน์ เพราะตอนแรกเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่พอเข้าแอปฯชอปปิ้งเท่านั้นแหละ ทำไมกล้องส่องทางไกลมันมีเยอะมากมายแบบนี้ เราจะเลือกซื้อกล้องส่องทางไกลแบบไหนดีให้เหมาะกับเรา บทความนี้มีวิธีเลือกกล้องส่องทางไกลแบบง่ายๆ ให้คุณใช้เลือกกล้องส่องทางไกลที่เหมาะกับตัวเอง

ทำความรู้จักกันก่อน กล้องส่องทางไกล มีกี่แบบ?

1. กล้องส่องทางไกล แบบตาเดียว (Monoculars)

เป็นกล้องส่องทางไกลที่มีเลนส์ขนาดใหญ่เพียงเลนส์เดียว ซึ่งเรามักจะคุ้นเคยกับภาพกล้องโจรสลัดหรือ Spyglass ส่วนกล้องดูดาวเราจะเรียกว่า Telescope (เทเลสโคป)

จุดเด่นของกล้องส่องทางไกล แบบตาเดียว คือ มีขนาดเล็ก (ครึ่งนึงของกล้องส่องทางไกล แบบสองตา) มีโครงสร้างแข็งแรง มีอัตราขยายสูง

จุดด้อยของกล้องส่องทางไกล แบบตาเดียว คือ ส่องนานไม่ได้เพราะใช้ตาข้างเดียว หากส่องนานๆ จะมีอาการปวดตาปวดหัวตามมา

2. กล้องส่องทางไกล แบบสองตา (Binocular)

จะเป็นกล้องมีสองเลนส์คู่ประสานการทำงานร่วมกันกัน โดยจะมีหลักการทำงานแบบเดียวกับกล้องโทรทรรศน์

จุดเด่นของกล้องส่องทางไกล แบบสองตา คือใช้งานง่าย ให้ภาพที่กว้าง คมชัดสมจริง สามารถมองภาพผ่านเลนส์ได้ทั้งสองตา ทำให้ไม่ปวดหัว ทั้งยังแข็งแรง และราคาไม่แพงมากนัก

จุดด้อยของกล้องส่องทางไกล แบบสองตา คือมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก

วิธีเลือกกล้องส่องทางไกล

วิธีเลือกกล้องส่องทางไกลมีหลายวิธี แต่ที่เราจะแนะนำนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และเหมาะสำหรับมือใหม่ ก็คือ เลือกกล้องส่องทางไกลให้เหมาะกับการใช้งานของเรา

1. กล้องส่องทางไกลสำหรับใช้กลางแจ้ง หรือสังเกตุการณ์

เลือกแบบที่มีขนาดเล็กกะทัดลัด ใช้งานได้ง่าย กล้องส่องทางไกลแบบตาเดียวเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุด หากมีงบประมาณสูงอีกนิดแนะนำให้เลือกแบบที่เคลือบกันน้ำที่เลนส์เพื่อความสะดวก

2. กล้องส่องทางไกลสำหรับไปดูคอนเสิร์ต

เวลาไปดูคอนเสิร์ตหรืองานแสดงต่างๆ ซึ่งมีแสดงน้อย บางครั้งอยู่ห่างไกลจนมองเห็นศิลปินบนเวทีตัวเท่าไม้ขีดไฟ กล้องส่องทางไกลจึงเข้ามาเป็นตัวช่วยที่จำเป็น แนะนำให้เลือกกล้องส่องทางไกล ที่มีเลนส์แบบ Multi Coat (Multilayer Coating) เป็นการเคลือบเลนส์แบบหลายชั้น ทำให้เห็นภาพสวยงามสมจริงสมจังและคมชัดมากกว่าเลนส์ที่ไม่ได้เคลือบ และเลือกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 25 มม. เพราะจะได้ไม่มีน้ำหนักมากจนทำให้เมื่อยได้

3. กล้องส่องทางไกลสำหรับดูกีฬา

การไปดูกีฬา โดยปกติแล้วเราจะมองภาพรวมเป็นหลัก แต่มีหลายคนที่อยากชมการเคลื่อนไหวของผู้เล่นคนโปรดแบบใกล้ชิด แนะนำให้เลือกกล้องส่องทางไกลที่สามารถซูมได้ มีกำลังขยายประมาณ 6-8 เท่า เพื่อไม่ให้ภาพหลังเบลอจนเวียนหัว

4. กล้องส่องทางไกลสำหรับส่องนก

การไปดูกีฬา โดยปกติแล้วเราจะมองภาพรวมเป็นหลัก แต่มีหลายคนที่อยากชมการเคลื่อนไหวของผู้เล่นคนโปรดแบบใกล้ชิด แนะนำให้เลือกกล้องส่องทางไกลที่สามารถซูมได้ มีกำลังขยายประมาณ 6-8 เท่า เพื่อไม่ให้ภาพหลังเบลอจนเวียนหัว

5. กล้องส่องทางไกลสำหรับดูดาว

แนะนำให้เลือกกล้องส่องทางไกลแบบตาเดียว พร้อมกับสามารถยึดเข้ากับขาตั้งกล้อง (spotting scope) ควรเลือกที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูม่านตาตั้งแต่ 5 มม. ขึ้นไป เพื่อให้ได้มุมมองที่กว้าง กำลังขยาย 6-10 เท่าก็เพียงพอสำหรับมือใหม่

การเลือกกล้องส่องทางไกลยังมีรายละเอียดเชิงลึกอีกมาก ซึ่งกล้องที่มีกำลังขยายสูงๆ อาจไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดีไปกว่ากล้องที่มีกำลังขยายต่ำกว่า เพราะการใช้งานแต่ละแบบมีข้อจำกัดหรือเป้าหมายที่ต่างกัน ดังนั้นเลือกให้เหมาะแก่การใช้งานเป็นหลัก เพื่อความประหยัดและผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

 

Leave A Reply

Your email address will not be published.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save