เปลี่ยนที่ดินเป็นฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยว เพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน
การทำฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยว คือการต่อยอดความสำเร็จของการทำเกษตรหรืออาจเป็นความตั้งใจแต่แรกของการเริ่มทำฟาร์มเกษตร โดยวัตถุประสงค์หลักคือการเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร และเป็นการสร้างเรื่องราวของฟาร์มแต่ละฟาร์มให้ผู้ที่สนใจเข้ามาท่องเที่ยวได้ลิ้มรสกับความเป็นธรรมชาติ
แล้วทำไมต้องทำฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยว ?
นั่นก็เพราะในปัจจุบันกระแสนิยมในการท่องเที่ยวนั้นเริ่มเปลี่ยนทิศทางจากเมืองใหญ่ไปสู่พื้นที่ชนบทหรือพื้นที่เกษตรชานเมือง นั่นจึงทำให้เห็นฟาร์มท่องเที่ยวเชิงเกษตรเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แล้วธุรกิจฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยวยังน่าลงทุนอยู่ไหม ต้องบอกเลยว่าหากเพื่อน ๆ สนใจจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้จะต้อง ”เริ่มจากการมีใจรักในการทำเกษตรก่อนเป็นอย่างแรก” เพราะหากเราเข้ามาลงทุนในตลาดนี้ด้วยความคาดหวังในผลกำไร ฟาร์มของเราก็คงมีความนิยมได้ไม่นานก็ถดถอยลดความนิยมลงไป โดยสำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจลองมาดูสิ่งจำเป็นในการทำฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยวว่ามีอะไรบ้างครับ
มีใจรักในการทำเกษตร
การทำฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยวนั้นก็ไม่ต่างกับการทำฟาร์มเกษตรอื่น ๆ ที่เพื่อน ๆ จะต้องมีใจรักในการทำเกษตรเสียก่อน เพราะจะต้องลองผิดลองถูกในการหาปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งอาจล้มเหลวหลายครั้ง ทำให้หากไม่มีใจรักในการทำเกษตรจริง ๆ ก็อาจล้มเลิกไปกลางคันก็ได้
มีความรู้ในการทำเกษตร
นอกจากการมีใจรักแล้ว ความรู้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องมี และต้องพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา เพราะหากเราไม่มีความรู้ในการทำเกษตร ผลผลิตของเราก็จะไม่มีคุณภาพ หรืออาจต้องพึ่งสารเคมีตลอดไป
ฟาร์มเกษตรจะต้องยืนหยัดได้ด้วยตัวของมันเอง
มีไม่น้อยที่เริ่มต้นความคิดในการทำฟาร์มเกษตรด้วยการหวังจะขายพืชผลทางการเกษตรให้กับผู้เข้าชมในราคาที่สูงกว่าตลาด นี่ถือว่าเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง (ยกเว้นเราจะมีทุนที่สูง จนสามารถตกแต่งฟาร์มและจ่ายค่าการตลาดได้ไม่อั้น) ในหลาย ๆ ฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยวจะพบว่าฟาร์มเหล่านั้นจะมีตลาดของตนเองอยู่แล้ว ทำให้ถึงแม้มีผู้เข้าชมน้อย ฟาร์มก็ยังมีรายได้หลักอยู่ดี
ควรอยู่ในจุดที่เป็นทางผ่านของแหล่งท่องเที่ยวหลัก
ถึงแม้ฟาร์มของเราแต่คงไม่คุ้มค่าสำหรับนักท่องเที่ยวแน่ ที่จะเดินทางออกจากเมืองเป็นร้อยกิโลเพื่อมาเที่ยวฟาร์มเกษตรเพียงอย่างเดียว ซึ่งหากเพื่อน ๆ กำลังมองหาที่ดิน ก็ควรที่จะมีแหล่งท่องเที่ยวในโซนนั้น หรือเป็นทางผ่านที่จะผ่านไปท่องเที่ยว ณ จุดท่องเที่ยวหลัก
ควรทำเป็นฟาร์มเกษตรอินทรีย์ หรือฟาร์มออแกนิกส์
เพราะในปัจจุบันนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับอาหารมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จึงทำให้การทำฟาร์มแบบอินทรีย์ที่ไม่มีสารเคมีเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยว และถ้าหากฟาร์มของเรามีใบรับรองฟาร์มออแกนิกส์แล้วละก็ จะมีบริษัทหรือผู้ที่ต้องการผักออแกนิกส์ติดต่อขอซื้อผักของเราอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับข้อแนะนำในการทำเริ่มต้นทำฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยว ซึ่งหากเราสามารถทำได้สำเร็จละก็ เชื่อได้เลยว่าเพื่อน ๆ จะมีรายได้ที่ดีมาพร้อมกับสุขภาพที่ดีตามมาด้วยครับ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาพื้นที่ที่จะทำฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยว เราขอแนะนำ “ที่ดิน 20 ไร่ สวนผึ้ง บ้านคา ราชบุรี” ที่เหมาะสำหรับทำเกษตร อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่กระจายในบริเวณนั้น ซึ่งตอบโจทย์การทำฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยวอย่างแน่นอนครับ
